“แฟนหมี”
..อาทิตย์ยังไม่อ่อนแรง
เวลาสักบ่ายโมงไม่ขาดเกิน พรานหนุ่มกลุ่มหนึ่งเดินเลาะลำห้วยมา บนหลังสะพายถุงย่ามกระเป๋าคนละใบ
พรานตุ๋ย พรานเซี่ยม พรานแฟน และพรานเต่า ชายหนุ่มรุ่นใหญ่พวกนี้พึ่งกลับมาจาก
ห้วยแม่ละมง ตัดเข้าสู่ห้วยใหญ่ผาเวียงหลังจากที่ เข้าไปนอนในป่าเสียสองคืนเพื่อ
อยู่ห้าง ผลปรากฏว่ามีเพียงกระรอกกระแตและอีเห็น ติดกระเป๋ามาเพียงคนละตัวสองตัว
ต่างบ่นกันอุบระหว่างทางกลับซึ้งใกล้ห้างนาตาทองเต็มทีแล้ว
เพราะจอดรถไถหางยาวไว้ที่นั้น“พี่เซี่ยม ไปกันก่อนเลย ผมปวดท้อง
ประเดี๋ยวแวะข้างทางหน่อย“พรานแฟน ออกตัวขออณุญาติพรานรุ่นพี่เพราะแกถูกข้าศึกประชิดติดเมือง“เออ
รีบหน่อยนะจะรีบกลับไปดูควายฝากเขาไว้หลายวันแล้ว’’“มึงระวังทากหน่อยนะมึงไอ่แฟน”พรานเต่าสำทับมาอีกที“เออๆๆ “พูดแค่นั้นพรานแฟนก็ผลุบเข้าพงหญ้าไป….
พรานตุ๋ย ร้องออกมาได้คำเดียว หมี!! และกดตูมไปด้วย ปืนแก๊ป ปัง!
ทันทีที่ กระสุดถูกยิงออกไป
ตัวพรานแกก็ปาฎิหาร โดดขึ้นต้นไม้ที่อยู่ใกล้ที่สุด
ปีนแปปเดียวก็ถึงคาคบปล่อยให้พวกอยู่ในน้ำงุนงงเรียกว่างงทั้งหมีทั้งคน
พวกอยู่ในน้ำกว่าจะรู้อะไรเป็นอะไร
หมีเจ้ากรรมที่ถูกยิงก็วิ่งเตลิดไปเสียแล้ว
เพราะมันมันก็ตกใจเหมือนกัน“พี่เซี่ยม หมีๆๆ ตามเร็ว“พรานตุ๋ย ตะโกนเหยวๆให้พี่ตามหมีไปทั้งที่ตัวเอง
ทะลึ่งไปอยู่บนต้นไม้เสียแล้ว สองพราน ขึ้นน้ำมา วิ่งไปด้วยแหกปากไปด้วย ตามหมีตัวนั้นไป“หมีโว้ยๆ“ไม่ใช่ร้องเพราะ จะให้หมีหยุดหรอกครับ
แต่ร้องเพื่อนให้เพื่อนรู้ เพราะมีทั้ง ตาสีเลย และ พรานแฟนที่นั่งถ่ายอยู่
จับเหมาะเจอหมีเจ็บจะยุ่งเอาแต่หายห่วงครับ ทางนั้นเอะอะโว้ยวายกันเช่นไร
พรานแฟนไม่ทราบได้
แต่ทำธุระเสร็จแล้ว ก็ยืนพิงต้นไม้ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างห้วยแกได้ยินเสียปืนหลวมๆนัดหนึ่ง
คิดว่าน้องคงยิงอะไรไม่สำคัญนักเพราะมันอยู่ให้ ห้างนาเต็มที ขณะที่แก
ยืนสบายใจอยู่นั้นเสียงวิ่ง กรวมๆ ลุยห้วยมาซึ้งน้ำสูงแค่ข้อเท้า แกขยับตัวออกมาดู
เห็นเป็น ตาสีเลย วิ่งหน้าตั้งหอบแหกๆมา ตะโกนเบาๆว่า หมีๆๆ แล้วแกก็วิ่งพรวดไปเลย
พร้อมกับเสียง รองเท้าบูทผสมน้ำ ดังกรวบๆๆ
พรานแฟน ยังมึนงงอยู่ เสียงเอะอะของฝังโน้นก็ดังใกล้เข้ามา
พรานแฟน กำคอปืนหลวมๆ เลยเดินล่องห้วยมา ไม่ทันพ้นโค้งวีรกรรมจึงเกิดขึ้น หมีเจ้ากรรมนั้นกระโดดสวบ
ตกตุบมาข้างหน้าพอดีเจอกันตาต่อตาระยาไม่เกินสองเมตร
ตัวใจพรานแฟนหล่นตุบไปที่ตาตุ่ม หมีนั้นพอเห็นพรานถนัดมัน ก็กระโจนเข้ามา ประชิด
ว่ากันว่าหมีนั้น
ไม่ชอบดวงตามนุษย์ยิ่งนัก ถ้ามันมีโอกาสมันจะต้องตะบบหนังหัว ถลกเอามาปิดหน้าทุกครั้งไปไม่รู้เป็นเช่นไรเหมือนกันครั้งนี้ เจ้าหมี
ก็หมายจะตะบบท้ายทอยพราน ด้วยสัญชาติญาณการเอาตัวรอด
พรานเลยยกเอาปืนขึ้นมากันพร้อมกระโดนหนี ผลคือ หมีตบปืนกระเด็นหมายเข้าไปในพง
พรานแกเซไปเพราะแรงตบ หมีใหญ่ตบซ้ำอีกครั้ง คราวนี้ ถูกถากๆบริเวณหัวใหล่และแขนด้านหลังพรานทั้งเจ็บทั้งเซ ตั้งสติได้หมายวิ่งให้เร็วที่สุด
หยัดตัวจะพุ่งสุดแรง ราวกับหมีตัวนั้นเดาทางคู่ชกของมันออก ตะปบเต็มแรงเข้ากลางหลังส่งผลให้(ตามที่ชาวบ้านเล่าลือคือ
พรานแฟนขณะที่โดนตบนั้น ตัวปลิวข้ามห้วยไปเลย)ส่งผลให้พรานแฟนกระเด็นไปสลบคอพับอยู่ริมน้ำเคราะห์ดีที่
ไม่โดนตอไม้ข้างๆเสียบเอา หลังจากที่ตบพรานคว่ำไปแล้ว หมีควายตัวนั้นก็ยืนสองขาทำเสียงอักๆในลำคอ
เห็นตัว V สีขาวชัดเจนมันขยับเดินก้าว สามขุมหมายจะซ้ำอีก
แต่เจ้าป่ายังใจดีอยู่ขณะที่หมียืนสองขานั้น
พรานเซี่ยมผู้ที่อาวุธโสสุดและ วิ่งเร็วที่สุดในคณะก็กระโจนพรวดเข้ามาข้างหลังหมี
เยื่องๆหน่อยไม่ถึง5 เมตร
เห็นเป้าหมายถนัดที่สุด พรานเซี่ยมจึงกดตูมลงไปด้วยปืนลูกซอง
กระลูกแบบ OO Buck 9 เม็ด ที่ตำแหน่งรักแร้แดง
อันเป็นจุดตายของสัตว์หลายชนิด
ด้วยแรงปะทะของกระสุน ทั้ง 9เม็ด เม็ดละ 60 เกรน ความเร็วอยู่ที่ 1,290 ฟุต/วินาที
ในหนึ่งเม็ดสร้างแรงปะทะเท่ากับ 221 ฟุต/ปอนด์ 9 เม็ดเท่ากับ1989 ฟุต/ปอนด์ (หมายถึงสามารถยกของหนัก 1989 ปอนได้สูง1ฟุต ในหนึ่งวินาที)เจ้าหมีความตัวนั้น ทรุดกับพื้นทันทีร้อง
อ๊าคๆๆๆ ยังกับวัวถูกเชือด ไม่ว่าใครที่ใหนได้ยินคงสยิวใจใช่น้อยเสียงมันดังไปทั้งห้วย
หมีทรุดแล้ว
แต่ไม่นานนักมันก็ลุกขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว จริงอยู่ตัวแหน่งรักแร้แดง
อันเป็นจุดที่หัวใจตั้งอยู่นั้น ย่อมเป็นจุดตาย แต่ใครหละจะทราบครับ
เป็นพรานก็จริงแต่ไม่ใช่ทุกคนจะเคยฆ่าหมีนี้ หัวใจหมี ใม่ได้ อยู่ตรงรักแร้แดง
แต่มันอยู่ค่อนมาทางตอนกลางบริเวณแถบเอว
ก็ไม่เคยเรียนมาก่อนจะทราบได้อย่างไรละครับ พี่น้อง งานนี้
ไอ่ถังยางมะตอนเคลื่อนที่ผลุดลุกขึ้นวิ่งกระเผลกเข้าไปในดงไม่ยอมสวนควันปืน อย่างที่มันชอบทำกัน
ขณะพรานเซี่ยมรีบหักหางเหยี่ยวบรรจุกระสุนใหม่ก็บังเกิดเวรกำ สปริงตัวดีดปลอกกระสุนไม่ทำงานพรานเซี่ยมใจหายวาบ
วิ่งหาที่แคะกระสุนให้วุ่นไป พรานเต่ากับพรานตุ๋ย วิ่งมาพอดีหมายจะซ้ำหมีให้อยู่แต่มันไม่อยู่เสียแล้ว
เห็นแต่ก้นไว้ๆ วิ่งเข้าป่าไปแล้ว ยิงซ้ำคนละนัด คงจะถูกให้หรอก(ประชด)แต่เหนื่อสิ่งอื่นใด
ทุกคนไม่สนใจหมีแล้ว ต่างมารุมล้อมร่างของพรานแฟนที่ นอนสลบคอพับ หลังจากที่พึ่ง
ถูกหมัดขวาอย่างจัง ของ คู่ชกเจ้าหมีควาย ซึ้งน้ำหนักคงเกือบ250 กิโล ต่างพรานต่างงุนงง ไม่รู้จะทำเช่นไรดี
ก็พากันแบก หามกันมาอย่างทุลักทุเล เพราะมันใกล้ห้างนาเต็มทีแล้ว ไม่เสียเวลาตัดไม้ทำเปล
มาถึงก็โยนใส่รถไถ่วิ่งเข้าหมู่บ้านเลย ซึ้งห่างไปอีกแค่ 6-7
กิโลเองอ่อ ส่วนตาสีเลยหรือ ครับ
รายนั้นไม่ต้องห่วง พอวิ่งหนีเอาโชคร้ายไปฝากพรานแฟนแล้ว ตัวแกก็วิ่งควบ รถจักรยาน
ปั่นกลับบ้านชนิดที่ว่า Nairo
Quintana นักปั่นจักรยานระดับโลกไม่ได้กินฝุ่นแกเลยละกันพอ
คณะเดินป่ากลบมาถึงหมู่บ้านก็นำตัว พรานแฟนใส่รถกระบะลุงนึกไปส่งโรงพยาบาลmyomu
เวลานั้น ประมาณ บ่ายสอง กว่าๆคนก็เล่ากันไปทั้งหมู่บ้านว่าไอ่แฟนโดนหมีกัด
เข้าโรงบาล ช่วงนั้นชาวบ้านว่างเว้นการงาน เลยหยุดอยู่บ้านกันเยอะข่าวจึงไปเร็วกว่า
จรวดอีกนาทีนั้น หนานเซี่ยมหรือพรานเซี่ยมถูกซักถามจากผู้คนเป็นการใหญ่ แกไม่ทันได้อธิบายอะไรทั้งนั้น
เหล่าบุคคลที่เป็นพราน และบุคคลที่ทำตัวเป็นพราน ก็ระดมกำลังกัน ยังกะจะไปรบกับใคร
ได้คนเกือบ 20 คนรถไถ่อีแต๊ก 5 คัน หมาล่าเนื้อที่ผอมแห้งอีก สองฝูง เพื่อจะไปล่าหมีเจ็บตัวเดียว พรานเมือง หรือคุณตาผมก็ไม่พลาดงานนี้ บ่ายสามเศษ
ทุกคนมาถึงจุดเกิดเหตุ หมาก็ทำหน้าที่ของมันอย่างดี ทุกคนไล่รอยไปอย่าง มืออาชีพ
พร้อมกับเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวาย เสียงแว่วๆมาว่า ระวังยังโดนกันเองนะเว้ยไม่เกินช่วงโมงที่ตามกัน
ก็ไปทันอยู่แอ่งน้ำเก่าๆแห่งหนึ่ง หมีมัน ยืนสู้หมา อยู่ที่นั้น เสียงหมาเห่าระงม
ต่างฝ่ายต่างมาล้อมหมี จากนั้นก็เป็นเสียงปืน ชนิดป่าแต่ราวกับ ลอยกระทง แว่วเสียงปืนเสร็จก็เป็นเสียง
เป่าโหวด หรือ เป่าไม่ไผ่ที่เป่าให้สัญญาณกันให้มารวมตัวกันที่ซากหมี ที่นอนสิ้น
ฤทธิ์อยู่ในแอ่งเก่านั้น มันมาจากจุดที่ตบพรานแฟนไกลอยู่ สำหรับหมีเจ็บ
“จะเอาไงกับหมี ”แว่วเสียงใครบางคน ในกลุ่มนั้น“ไอ่เซี่ยม มึงเป็นหัว
มึงยิงคนแรกเอาไงวะ ” ““มันคงขายได้หลายตังค์อยู่เผื่อไอ่แฟนมันเจ็บมากจะได้ช่วยค่ายา”หนานเซี่ยมบอกเบาๆ“งั้นก็ชำแหละมันตรงนี้เลยละกัน
ขี้เกียจห้ามวุ้ย”ใครบางคนบ่น“มึนจะเอาดีมันไม้ไอ่เซี่ยม”ประโยคแรกที่ตาผมกล่าว“เอาครับ ลุง”“ถ้าจะเอาดีมึงต้องให้มันตายทิ้งไว้คืนหนึ่งก่อน
แล้วค่อยผ่าเอาดี ตอนนี้ดีมันอยู่ในร่างกายส่วนต่างๆ
ต้องรอสักคืนให้มันใหลกลับเข้าถุงก่อนพรุ่งนี้ ค่อยผ่าเอาจะได้ดีที่ใหญ่กว่าผ่าเอาตอนนี้”“ทิ้งไว้อย่างนี้มิเหมาะมั้งพี่เมือง”พราน แก้วบอกมา“เออก็ว่า”“เห้ยๆตัดไม้โว้ยหามหมี
เอากลับทั้งแบบนี้แหละโวย ไปๆๆ”ประโยคสุดท้ายเป็น คำพูดพรานทองที่
ตะโกนสั่งความ หนุ่มๆที่อ่อนกว่าแก….
…พรานแฟน ไม่เป็นไรมาก ไปฟื้นตรงกลางทางไปโรงบาล
แต่ก็ไปตรวจร่างกาย ไม่เป็นไรมาก หมอ ให้นอน 1
คืนที่โรงพบาบาลศรีศัชนาลัย ถือเป็นเรื่องที่ น่าตื่นเต้น และเล่าให้ตลกขบขันกันในวงเหล้าได้ว่า
แกเคยดวลตัวต่อตัวกับหมีควายมาแล้ว
คนที่นั้นใครมีเอกลักษณ์หรือวีรกรรมอะไรก็จะเอามาเป็นชื่อสร้อย
เช่นคนขี้โม้ขี้โวก็จะมีคำว่า โว ต่อท้ายเช่น ตุ๋ยโว เป็นต้น
คราวนี้ เป็นตาแฟนที่ได้ฉายาหรือสร้อยต่อท้ายว่า แฟนหมี นับแต่นั้นมา..ขออุทิศเรื่องนี้ให้กับ
คุณพ่อแฟน ขัดมูล ผู้ล่วงลับไปแล้วด้วย วัณโรคครับเรื่องกระทิงผมติดไว้ก่อนนะครับ
เอาเรื่องนี้ก่อน 555
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ ดันเต้ DANTE
ยาวมากกกวีรกรรม สุดยิ่งใหญ่ที่เป็นที่กล่าวขวัญ(ด้านตลกเฮฮา)
ของชาวหมู่บ้านโปงตีนตั่ง และห้วยผาเวียงจะจดจำไปอีกนานแสนนาน
เมื่อมีหนุ่มใหญ่วันฉกรรณ์ เข้าต่อกรกับหมียักย์ชนิดตัวต่อตัว…ห่างจากจุดแยกกันไม่ถึง 5 นาทีนัก กลุ่มพรานป่าก็ไปเจอ กับหนานสีเลย
แกมาเก็บผักกูด อยู่ริมน้ำ ความจริงห้างนาแกก็ไม่ไกลจากจุดนั้นนัก พูดทักทายกันตามประสากลุ่มพรานก็เดินแยกไปขณะที่กลุ่มพราน
นั้นกำลังลุยน้ำจะข้ามห้วย พรานเซี่ยมและพรานเต่า
ลงห้วยไปแล้ว อยู่กลางห้วยน้ำครึ่งเอว แต่พรานตุ๋ยเพรานที่อาวุโสน้อยที่สุดในกลุ่มยังยืนอยู่ริมน้ำ
แกไปสะดุดตากับอะไรบางอย่างที่ กำลังเดินเลาะฝั่งมาเหมือนกัน
พอพ้นพงหญ้าเห็นตัวถนัดเท่านั้นแหละครับ