เรื่อง ต่อๆ ตอนที่สอง
ต่อจากเรื่องที่แล้วเลยนะครับต่อหัวเสือสุดอันตรายผ่านไปแล้วถึงตาเจ้าต่อหลุ่มที่อันตรายไม่เเพ้กันเลยครับเจ้านี้เกเรมากกว่าอีกนะครับเรียกว่าเกิดมาเพื่อล่าโดยตรงมันชอบพาสมัครพรรคพวกไปโจมตีรังต่ออื่นๆด้วยกันเองเเล้วขโมยอาการจับลูกเขามากินอีกนิ โถ่ๆอะไรจะมาณนั้นมาลองดูกันครับหน้าตาแบบนี้ครับ แทบเเยกไม่ออกระหว่างต่อหลุมกับต่อหัวเสือนะครับ เเต่ดูดีๆครับมีส่วนสังเกตุอยู่
เห็นจุดสังเกตุแล้วใช่ไม้ครับ ที่ลายตรงปล้องท้องนั้นเองต่อหัวเสือจะมีลายสีส้มมากกว่าครับ สอง-สามเลยเเล้วเเต่สายพันธุ์ แต่ขณะที่ต่อหลุ่มจะมีเพียงลายเดียวครับผม
ต่อหลุ่ม ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Vespa Tropica
โดยปกติเจ้าต่อหลุมนี่จะมีขนาดใหญ่กว่าต่อหัวเสือนะครับ...ขนาดลำตัวโดยทั่วไปยาวกว่ากันมาก
ต่อหลุม ปกติจะสร้างรังในโพรงดินครับ ต่างจากต่อหัวเสือที่จะสร้างรังตามต้นไม้หรือบ้านเรือนนะครับ
ที่อาศัยเค้าคือ ป่าเบญจพรรณ ป่าโปร่ง และพบได้ทั่วไป พูดง่ายๆก็คือเช่นเดียวกับต่อหัวเสือครับ ต่างกันที่ขนาดที่อยู่อาศัยเท่านั้นครับ
นี้ครับ ส่วนสังเกตุ จากพันธุ์หัวเสือ กับต่อหลุ่ม ต่อหลุ่มจะตัวใหญ่กว่าและมีสีส้มปล้องกลางปล้องเดียวในส่วนท้อง เเต่ในขณะที่เจ้าหัวเสือมีสีส้มสองปล้องคือตรงกลางท้องกลับปล้องติดกับอกครับ ก็เรียกได้ว่าพอจะเข้าใจเเละแยกออกแล้วนะครับกับสองชนิดนี้
จากนี้จะพูดถึงประสบการณ์ที่มีคนเจอเจ้าตัวต่อพวกนี้มากับตัวครับ เรียกว่าเจ็บจี๊ดเผ็ดร้อนกันเลยที่เดียว โพสขึ้นที่เพจอาหารและสุขภาพนะครับ
ลองอ่านกันดูเพื่อเป็นความรู้นำไปใช้ได้จริงครับ
“ ต่อหัวเสือ ” เป็นแมลงอันตราย ลักษณะของลำตัวมี สีดำ ปีกสีน้ำตาล ท้องมีแถบสีส้มปนเหลือง (คล้ายๆลายเสือ) มีขนาดลำตัวยาว 3.00-3.50 เซนติเมตร
ต่อหัวเสือ ในไทยของเรา พบได้ทั่วทุกภาค พี่น้องอีสานเรียกว่า ต่อนอนเว็น (ต่อนอนกลางวัน) เพราะต่อหัวเสือนั้นกลางวัน มันจะนอนซ่อนตัวอยู่ในรัง และเริ่มออกหากินในเวลากลางคืน พี่น้องทางใต้เรียกมันว่า “ต่อรัดพัดผ้าแดง” ก็คงดูจากรูปร่างสีสันในตัวของมัน ที่เหมือนเอาผ้าแดงๆมาพันคอไว้
วิธีการหากินของตัวต่อจะเข้าไปต่อยตัวหนอนให้ สลบแล้วจึงอุ้มตัวหนอนนั้นมาวางไว้ตามช่องภายในรังเพื่อเป็น อาหารลูกอ่อนของตัวต่อที่จะเกิดขึ้นมา อาหารของต่อส่วนใหญ่จะเป็นพวกเนื้อสัตว์ แต่มันก็ยังกินน้ำหวานเพิ่มเติมด้วยเพื่อใช้ในการเผาผลาญให้เกิดพลังงานแก่ร่างกาย แหล่งที่เป็นพลังงานสำคัญของต่อคือ น้ำหวานจากผลไม้สุกและเกสรดอกไม้ ในการกินเกสรดอกไม้ของต่อหรือผึ้งก็จะเป็นประโยชน์กับต้นไม้ เพราะเป็นการช่วยผสมเกสรให้ดอกไม้ไปในตัว
อาวุธร้ายของมันก็คือ เหล็กใน (sting) ซึ่งจะซ่อนอยู่ตรงปลายสุดของลำตัว ที่แหลมเหมือนเข็มฉีดยา ก็คล้ายกับผึ้ง แต่ที่น่ากลัวกว่าก็คือ ในขณะที่ผึ้งจะต่อยได้แค่ครั้งเดียวแล้วก็ฝังเหล็กในไว้บนผิวหนังแล้วตัวมันเองก็ตาย (เหมือนพวกระเบิดพลีชีพไม่มีผิด!) แต่เจ้า ต่อหัวเสือ นั้น…เมื่อมันต่อย มันจะไม่ฝังเหล็กในทันที แต่จะถอนเหล็กในออกอย่างรวดเร็ว แล้วต่อยซ้ำๆ กันได้หลายๆ ครั้งติดต่อกัน(เหมือนต่อยรัวๆๆๆ)
ใครที่โดน ต่อหัวเสือ ถึงกับรุมเล่นงาน จะมีอาการหนักหนาสาหัสเพียงใด นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของต่อที่ต่อย ปริมาณพิษที่ได้รับ และจำนวนครั้งที่โดนต่อต่อย
แต่ที่สำคัญก็คือ แต่ละคนมีอาการแพ้พิษในระดับที่ไม่เท่ากัน ในขณะที่บางคนเพียงเจ็บคันและบวมเล็กน้อย แต่บางคนนอกจากจะปวดบวมมากแล้ว เป็นลมพิษ เกิดปฏิกิริยารุนแรง ถึงขั้นหายใจไม่ออก ช็อคและเสียชีวิตได้
คนที่โชคดีที่ไม่แพ้แมลง (non-allergic) ก็อาจแค่คันตรงบริเวณผิวหนังที่ถูกพิษ หรือเป็นตุ่มบวม เจ็บ แดง ร้อน แต่แบบนี้เป็นอาการไม่รุนแรงไม่น่ากลัว อาการรุนแรงสองแบบที่เรากลัวเป็นอาการภูมิแพ้ คือเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่อพิษของมันที่แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาตามระบบต่างๆทั่วร่างกาย ที่อันตรายคือทำให้กล่องเสียง หลอดลมบวม เป็นเหตุให้ทางเดินหายใจอุดตัน หรือมีอาการหอบหืดเฉียบพลัน อีกอาการหนึ่งคือทำให้เกิดอาการช็อค จากหลอดเลือดส่วนปลายขยายตัวเฉียบพลัน อาการรุนแรงทั้งสองแบบนี้ไม่ต้องต่อยหลายตัว ไม่กี่ตัวก็เกิดได้เพราะเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย อาการรุนแรงอีกแบบหนึ่งคือการถูกต่อยหลายๆตัว ได้รับพิษจำนวนมากที่เข้าสู่ร่างกาย จะเกิดผลเสียต่ออวัยวะต่างๆเช่นเกิดไตวายได้ เป็นต้น
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อโดนตัว ต่อหัวเสือ ต่อย
ใช้กระดาษหรือแผ่นพลาสติกแข็ง เช่น บัตรเติมเงิน บัตรเอทีเอ็ม กดข้างๆเพื่อเอาเหล็กในออก ซึ่งจะช่วยลดปริมาณพิษลง และยังป้องกันแพ้อย่างรุนแรงได้
เอาถุงน้ำแข็ง หรือแผ่นประคบเย็น ประคบแผลเพื่อลดความเจ็บปวด และอาการบวม
ใช้ครีมสเตียรอยด์เช่น 1% ไฮโดรคอร์ติโซน ทาบริเวณที่ถูกกัดวันละสามครั้งจนกว่าจะหาย
กินยาแก้แพ้ ประเภทแอนตี้ฮิสตามีน เช่นไดเฟนไฮดรามีน
กรณีที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง จะมีอาการหน้าบวม ตาบวม ริมฝีปากบวม บ่งบอกว่า เยื่อบุทางเดินหายใจภายในจะบวมคล้ายๆกัน จะมีอาการหายใจเสียงดัง หายใจลำบาก หรือหน้าซีด ตัวเย็น ไม่ค่อยรู้ตัว เป็นลม กรณีเช่นนี้ต้องรีบนำส่ง สถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยด่วนเลยนะครับ
หากในกรณีที่มีอาการรุนแรงคุณหมอจะให้ยาฉีดอดรีนาลีนทันทีเพื่อลดอาการบวมของทางเดินหายใจ
เอาถุงน้ำแข็ง หรือแผ่นประคบเย็น ประคบแผลเพื่อลดความเจ็บปวด และอาการบวม
ใช้ครีมสเตียรอยด์เช่น 1% ไฮโดรคอร์ติโซน ทาบริเวณที่ถูกกัดวันละสามครั้งจนกว่าจะหาย
กินยาแก้แพ้ ประเภทแอนตี้ฮิสตามีน เช่นไดเฟนไฮดรามีน
กรณีที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง จะมีอาการหน้าบวม ตาบวม ริมฝีปากบวม บ่งบอกว่า เยื่อบุทางเดินหายใจภายในจะบวมคล้ายๆกัน จะมีอาการหายใจเสียงดัง หายใจลำบาก หรือหน้าซีด ตัวเย็น ไม่ค่อยรู้ตัว เป็นลม กรณีเช่นนี้ต้องรีบนำส่ง สถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยด่วนเลยนะครับ
หากในกรณีที่มีอาการรุนแรงคุณหมอจะให้ยาฉีดอดรีนาลีนทันทีเพื่อลดอาการบวมของทางเดินหายใจ
ป้องกันอย่างไร จึงปลอดภัยจาก ต่อหัวเสือ ?
ที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนลูกๆหลานๆว่า พบรัง ต่อ แตน หรือผึ้งที่ไหนก็ตาม ห้ามเขี่ย-แหย่หรือทำลายรังของมันอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นก็จะเกิดเหตุร้ายอย่างที่เป็นข่าวมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน (หากไม่รู้วิธีจริง อย่าทำลายรังเองโดยเด็ดขาด การกำจัดเผาทำลายรังปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญเถิด)
อย่าเลือกอาศัยในบริเวณที่มีคนเพาะรังต่อเป็นอาชีพ เพราะเหตุว่า มีคนไม่น้อยเลยที่นิยมหม่ำตัวอ่อนของต่อ เปิบพิสดารเมนูนี้มี ทั้งย่าง-เผาไฟ-นึ่ง หรือเคี้ยวกันดิบๆ (ว่ากันว่ารสชาติหวานมันยิ่งนัก) แถมราคารังละ 300 บาท จึงมีคนยอมเสี่ยงภัยยึดอาชีพดังกล่าว เพราะเห็นว่าคู่แข่งน้อย แถมไม่ต้องลงทุนเพราะไม่ต้องให้อาหาร บางบ้านจึงเพาะรังต่อไว้ถึง 20 -30 รังกันเลย
ที่เล่ามาทั้งหมด อาจทำให้เห็นว่าเจ้าต่อหัวเสือคือซาตานที่ไม่ควรผุดขึ้นมาในโลกนี้เลย ซึ่งที่จริงแล้วโลกเราก็ได้คุณประโยชน์จากพวกมันไม่ใช่น้อยๆ ทั้งภาคการเกษตรกรรม ที่กำจัดศัตรูพืชผักที่ปลูก เช่น เพลี้ยอ่อน หนอนผีเสื้อ ตัวอ่อนตั๊กแตน โดยมันจะจับแมลงเหล่านี้กินเป็นอาหาร (แถมยังขนกลับไปกินที่รังอีกด้วย) ในภาคระบบนิเวศน์ สร้างสมดุลให้ระบบด้วยการ กินซากเนื้อสัตว์ แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่มิตรรักที่แสนเชื่องของมนุษย์อย่างแน่นอน
หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จากความรู้ที่นำมาฝากกัน ทางที่ดี
เราควรอยู่ให้ห่างจากบริเวณที่มีรังต่อจะดีต่อเรามากที่สุด
เราควรอยู่ให้ห่างจากบริเวณที่มีรังต่อจะดีต่อเรามากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น