ประสบการณ์หลงป่า ตอนที่ 2

ประสบการณ์หลงป่า ตอนที่ 2

จากที่เราเล่าถึง เรื่องตัวต่อกันมาเเล้วนะครับ เราก็จะมาพูดถึงการหลงป่าของ น้าทอมกันต่อครับซึ่งในตอนนี้ เป็นช่วงหลังจากตอนที่เเล้วครับ เรามาดูกันซิว่าอันตรายต่างๆเเละวิธีเอาตัวรอดเป็นอย่างไรบ้าง เชิญครับ
นี้คือรูปอุปกรณ์ของน้าทอม นะครับ เเละรูปสัตว์ต่างๆ






เริ่มกันเลยครับ

ตอนที่ 2 
ก่อนที่จะขึ้นนอนบนเปล เพื่อพักผ่อน ผมก็นึกถึงสิ่งที่หมอป่าแห่งห้วยขาแข้งเล่าให้ฟังว่า หากเราจำเป็นต้องพักแรมในป่าโดยที่ไม่สามารถก่อกองไฟได้ ให้ใช้วิธีสร้างอนาเขตแบบสัตว์ โดยการฉี่รดโคนต้นไม้ เพราะในฉี่ของผู้ชายจะมี ซีโรโมน ที่สัตว์ได้กลิ่น แล้วจะไม่กล้าเข้ามาในบริเวณ เพราะธรรมชาติ สัตว์ป่าจะกลัวมนุษย์มาก ผมก็เลยมองหาจุดที่คาดว่า อาจเป็นเส้นทางที่สัตว์จะเดินเข้ามายังที่ ที่ผมผูกเปลนอน แล้วก็ไปปฏิบัติการสร้างอนาเขตโดยทันที่ แต่ผมไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ขอขมาก่อนทำเพราะเป็นสิ่งที่คนไทยถือ เมื่อเสร็จ ผมกลับมาขึ้นเปลนอน แต่ผมก็หลับได้ไม่เต็มตา เพราะผลจากการละเมิดกฎของเวลา การตั้งแค้ม ผมไม่มีกองไฟช่วยให้อุ่นใจ หรืออุ่นกาย เพราะในป่าแห่งนี้ถึงจะเป็นป่าร้อนชื้น แต่กลางคืนมันก็หนาวอย่าบอกใคร ได้แต่เพิ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ติดตัวมาขอให้พ้นคืนนี้ไป อย่างปลอดภัย เพราะการเข้าป่าแห่งนี้ของผม เป็นการเข้ามาเยือนเป็นครั้งแรก 
แต่สิ่งที่ทำให้อุ่นใจ คือท้องฟ้าที่เปิด ดวงดาวในป่าสวยมาก พอที่จะทำให้เราคลายความวิตกกังวลไปได้ จากนั้นผมก็หลับ รู้ซึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงของไก่ป่า และนกกาหว่าวร้อง อากาศในป่ายามเช้าช่างสวยงามสดใส ผมรีบลุก แล้วแต่งกายเก็บเปลม้วนมัดติดกับเข็มขัดด้านหลังของกระเป๋าฉุกเฉิน ผมเก็บกิ่งไม้แห้งบริเวณรอบๆ เพื่อก่อกองไฟเล็กๆ พอต้มซุปข้าวโพดที่มีมา เติมพลังก่อนออกเดินหาเต็นท์อีกครั้ง เพื่อที่จะไปต่อให้ถึงต้นน้ำของแม่น้ำเพรชบุรีให้ได้ ตามที่ได้ตั้งใจไว้ หลังจากกินซุปหมดและดับไฟ ด้วยวิธีการใช้ดินกลบ แล้วใช้มือแตะเพื่อให้แน่ใจว่าไฟดับดีแล้ว เพราะหากไฟยังไม่ดับ มันอาจเป็นต้นเหตุทำให้เกิดไฟป่าได้ (ดังนั้นที่ผมเคยบอกว่า ขอให้เที่ยวป่าอย่างมีวินัย เพราะวินัยเป็นสิ่งสำคัญ และการดับกองไฟให้สนิท ก็เป็นการรักษาวินัยที่สำคัญ ) ผมทำการสำรวจน้ำดืมในกระติก ว่าต่ำกว่าปริมาณที่ปลอดภัยหรือไม่ เพราะที่เดินมาเมื่อวาน ผมยังไม่เจอแหล่งน้ำเลย เมื่อสำรวจน้ำในกระติกว่ายังมีปริมาณที่ยังไม่ถึงขั้นอันตราย ผมก็เริ่มออกตามหาเต็นท์ โดยการเดินย้อนทิศทางที่เริ่มเดินเข้าป่ามา แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ด้วยว่าป่าที่รกทึบ ยากต่อการดูทิศทาง และสั่งเกตุจุดเป้าหมาย ที่เราใช้จับทิศทาง ก็มีระยะที่สั้นลงไปด้วย เพราะความหนาแน่นของพุ่มไม้ใหญ่น้อย ทำให้การเดินทางยากลำบากยิ่งขึ้น เพราะการเบิกทางในป่าที่รกทึบเป็นอะไรที่ต้องใช้แรงกำลังมาก อีกทั้งเสี่ยงกับการได้รับอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะกับคนที่กำลังหลงป่า แต่จะทำไงได้ เพราะไม่ว่าจะซ้าย จะขวา หรือข้างหน้าก็รกเหมือนๆกัน ไม่มีทางอื่น นอกจากต้องลุยไปตามทิศทางที่วางไว้ ผมจึงมองหากิ่งไม้ หรือต้นไม้ขนาดเหมาะมือเพื่อทำไม้เท้า ตัดให้มีความยาวประมาณเมตรห้าสิบเซ็น ประมาณ สามในสี่ส่วนของความสูงของผม จากนั้นใช้มีดผ่าตรงส่วนที่หนา ให้แยกออก แล้วเอามีดอีกเล่มมายัดลงไป ใช้เชือดมัดให้แน่น เพื่อทำเป็นหอก ส่วนปลายไม้เวลาเดินในที่รกก็ใช้ค้ำไปทางด้านหน้าเพื่อไล่สัตว์มีพิษ ก่อนที่จะก้าวเท้าไป เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ เกิดก้าวเท้าไปเหยียบเอางูเห่าเข้าละก็ คงเป็นศพแน่ๆ ส่วนปลายอีกด้านที่ติดมีดไว้ เพราะหากเจอหมีควายเข้า หมดโอกาสหนี ต้องตั้งหลักสู่ เพราะก่อนหน้าที่จะมาเจอด่านป่าทึบนี้ ผมเจอกระจุกขน ขาดว่าหน้าจะเป็นของหมีควาย ติดอยู่กับเปลือกไม้ สูงในระดับหน้าอกของผมพอดี ผมรู้โดยทันทีว่า ตรงนี้ ต้นไม้ต้นนี้หมีควายตัวสูงมากกว่า เมตรห้าสิบเซ็น มันเอาหลังมาถูเอาไว้ เพราะหากเป็น หมีหมา หรือ หมีคน ความสูงของมันจะไม่เกินเมตรสามสิบเซ็น แต่รอยเท้าของมันมุ่งหน้าไปทิศอื่น ถึงมันจะไปทิศทางอื่นก็ตาม ด้วยนิสัยของหมีควายนั้น เป็นสัตว์ที่หวงถิ่น และผมเองก็กำลังอยู่ในถิ่นของมันซะด้วย แต่ถ้าไม่เจอกันซึ่งหน้า มันจะไม่ตามมาเล่นงานเรา เพราะตัวมันเองก็กลัวคนเช่นกัน ดีงนั้นเวลาเดิน ผมต้องส่งเสียไปเลื่อยๆ เพื่อให้หมีเป็นฝ่ายเลี่ยงไป เดินฝ่าดงก็เหนื่อยพอแรงแล้ว ยังต้องแหกปากไล่หมีอีก เดินได้ไม่ถึงกิโล ผมก็หมดแรง ต้องหาที่หยุดพักเพื่อกินเพื่อเพิ่มพลังงาน และที่สำคัญ ต้องเป็นทำเลที่ปลอดภัย จากหมีควายคือสถานที่ ที่ผมสามารถตรวจการได้โดยรอบ เพราะในที่ๆเราพบร่องรอยของสัตว์ที่มีความดุร้าย จะหยุดพักสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เมื่อผมหาทำเลที่เหมาะๆได้แล้ว ผมจึงนั่งพัก แล้วนำถั่วที่เหลืออีกถุงมากินกับน้ำผึ้งอีกนิดหน่อย เพราะซุปที่เหลืออีดห้าซอง ยังไม่เหมาะที่จะต้มตอนนี้ เพราะกลิ่นของซุป จะลอยไปเข้าจมูกหมีควาย แล้วหมีควายมันคงไม่รอช้า มันต้องเดินทางมาร่วมแจมกับผมแน่ หลังจากพักจนหายเหนื่อยพอสมควรแล้ว ก็ต้องรีบไปต่อ เพราะผมไม่ยากค้างคืนที่นี่ โดยมีหมีควายอยู่ใกล้ๆตัว เบิกทางถางดงมาได้สองกิโลเมตรกว่าๆ ผมก็เจอป่าที่โป่งมากขึ้น พอเห็นแสงตะวันยามบ่าย ผมมองที่นาฬิกาข้อมือ เวลาเกือบบ่ายสองโมงแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววของเต็นท์ หรือ ทางที่คุ้นตาเลย ประกอบกับการเบิกทางฝ่าดง มันเป็นอะไรที่กินแรงมาก วันนี้คงต้องหยุดพักเร็วขึ้นหน่อย ผมเริ่มสำรวจพื้นที่หาทำเลผูกเต้นนอน หลังจากเจอทำเลเหมาะๆผมก็เริ่มสำรวจร่องรอยของสัตว์อันตรายพร้อมกับเก็บฟืนไปด้วย เมื่อทำการสำรวจสิ่งต่างๆพร้อมกับเก็บฟืนมาได้มากพอ ผมก็เริ่มก่อกองไฟ สำรวจสุขภาพตัวเอง ถอดรองเท้าออกดู ผมก็เจอปาตี้เล็กๆของหมู่ทาก สองสามตัว ที่กำลังดูดเลือดที่เหนือข้อเท้าขวาของผมซะตัวเป่งกันเลยที่เดียว ข้างซ้ายก็เช่นกัน สนุกสนานกันอยู่สองตัว ผมหยิบบุหรี่มาจุดสูบไป แล้วก็เอาบุหรี่จี้มันทีละตัว จนมันหลุดไปหมด แต่ด้วยความที่มันดูดเลือดผมมานาน และในน้ำลายของตัวทาก มันมีสารชนิดนึงที่หยุดกาาแข็งตัวของเลือดทำให้ บริเวนรอยที่มันดูมีเลือดซึมออกมา และกลิ่นเลือดก็ไม่เป็นผลดี หากคุณต้องอยู่ตัวคนเดียวในป่า ผมเลยเอาบุหรี่ที่สูบไปแล้วครึ่งมวน แกะเอายาเส้นข้างในมาผสมน้ำนิดหน่อย พอให้เปียก แล้วเอาไปแปะไว้บริเวนที่มีเลือดซึม เพราะยาเส้นมีสารที่ช่วยให่เลือดแข็งตัว ช่วยในการห้ามเลือดได้ จากนั้นก็นำซุปเห็ดออกมาต้มกินสองซอง เพราะวันนี้ใช้พลังงานไปมาก เมื่อเลือดที่ซึมหยุด ผมก็เอาชุดทำแผลในกระเป๋ายังชีพฉุกเฉิน เอายาเบนตาดีนมาทาเพื่อฆ่าเชื่อ แล้วจึงใส่ถุงเท้าสำรองอีกคู่ แล้วเอาไม้แห้งท่อนใหญ่ประมาณต้นขา วางพาดบนกองไฟเพื่อให้กองไฟอยู่ได้นานๆ ปัญหาของผมอีกอย่างที่กำลังจะตามมาในวันพรุ่งนี้ คือน้ำดืมในกระติกเหลือน้อยเข้าขั้นวิกิต ดังนั้นในวันพรุ่งนี้สิ่งที่ต้องทำเป็นลำดับแรกคือหาแหล่งน้ำเพื่อเติมน้ำในกระติกให้เต็ม สำหรับคืนที่สองนี้ ผมหลับสนิทเพราะความเหนื่อยล้าจากการเบิกทางฝ่าดง..
และนี้คือ เฟสของน้าทอมนะครับพระเอกของเรื่องนี้ ซึ่งต้องขอบพระคุณอย่างสูงที่ให้ยืมเรื่องราวเหล่านี้มาเผยเเพร่ เพื่อเป็นประโยชน์ของผู้ที่อ่านเเละศึกษามันครับ
https://www.facebook.com/profile.php?id=100001055300017&fref=ts

จบกันไปนะครับสำหรับตอนที่สอง เเละตอนที่สามจะมาในเร็วๆนี้ครับผม ขอบคุณที่ติดตาม DANTE



6 ความคิดเห็น:

  1. จะรอติดตามตอนต่อไปนะคับ ว่าจะมีอะตื่นเต้นอีกครับบบ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ5 ธันวาคม 2557 เวลา 10:34

    อ่านสนุกมากเลยค่ะ ^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากครับผม วันหลังจะรีบอัพบทใหม่เลย

      ลบ
  3. เยี่ยมชมครับ
    เป็นเว็ปรวมแหล่งความรู้ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติที่ดี น้ำจากต้นไผ่ผมเคยทำเมื่อสมัยยังรับงานสำรวจแล้วต้องใช้เวลาอยู่ในป่านานๆ หากหาทำเลตั้งแค้มป์ใกล้แหล่งน้ำไม่ได้ก็ป่าไผ่นี้แหละเหมาะ หาน้ำดืมได้ ถึงงูจะชุมไปหน่อย แต่ไม่เคยรู้ถึงสรรพคุณของน้ำจากต้นไผ่เลยจนได้มาอ่านที่นี่ครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากครับ น้าทอม ขอมูลของน้าเป็นประโยชน์เเละเป็นเเนวทางที่ดีสำหรับคนยุคใหม่ที่สนใจการเดินป่า ครับ

      ลบ